ช่วงนี้เดินสายต่างประเทศบ่อยนะครับ เลยได้มีโอกาสได้เห็นโลกต่างๆมากมาย โลกใบนี้มันกว้างมากนะครับ ยิ่งโลกกว้างเท่าไร ตัวเราก็ยิ่งเล็กลงเท่านั้น ก่อนอื่น ผมต้องขออนุญาตชี้แจงก่อนนะครับ พอดีว่า ผมไม่ใช่คนเก่งอะไรหรอกครับ แต่ได้รับโอกาสที่ดี ในการเดินทางต่างประเทศมากกว่าครับ เลยอาจจะได้เห็นอะไรมากขึ้น บางสิ่งบางอย่าง อาจจะมีแล้วในบ้านเรา ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ ทุกบล็อค ที่เขียน ก็เป็นการแบ่งปันแล้วกันนะครับ
ผมเดินทางมาสอนหนังสือในประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกอย่างประเทศ ฟินแลนด์ อาจจะว่าไปแล้วประเทศที่ไม่ค่อยมีทรัพยากรอย่างฟินแลนด์ เขาก็ต้องหาทางที่จะสร้างรายได้ให้กับคนของประเทศขงเขาครับ เนื่องด้วยการเป็นประเทศรัฐสวัสดิการ รัฐบาลจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อดูแลพลเมืองของประเทศเขา ดังนั้นถ้าไม่มีอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้เข้าประเทศ ก็จอดไม่ต้องแจวเลยครับ สำหรับนโยบายนี้ สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือ รัฐบาลร่วมกับภาคเอกชน เปิดพื้นที่ให้กับ Start Up ใหม่ๆ ได้กระตุ้นการทำงานและเกิดธุรกิจใหม่ และเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ Young Enterpreneur ครับ โดยพยายามจัดพื้นที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจ Start Up ใหม่ๆ ทั้ง FinTech,HealthTeach,EdTeach, InventTech, NonoTech เพื่อกระตุ้นให้เกิดบริษัทต่างๆครับ วันนี้ผมมาที่ GE Health Innovation Village ที่ลงทุนด้วย GE เดินเข้าไปเหมือนกับ Co-Working Space ที่ที่มีหลายๆ Start Up มารวมกัน มีห้องประชุม โต๊ะทำงาน และช็อป สำหรับการสร้าง Prototype มีการกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เอาไป Pitching เพื่อเอา Cert ในการสร้างความน่าเชื่อถือ เมื่อ Start Up มีความน่าเชื่อถือ
ขั้นต่อไปก็คือ Fund Raising จาก Annoymous Investor ผู้ลงทุนที่ไม่เปิดเผยตัวตันครับ เช่น นักลงทุนคริปโต นักลงทุนที่ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร โดยแพลทฟอร์มนี้กำลังเป็นที่นิยมครับ จากที่เมื่อวานผมเขียนว่า เงินมันถูกฝังไว้ นั่นเป็นเรื่องจริงครับ นักลงทุนจากรัสเซีย และยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง มีการลงทุนในธุรกิจ Start Up มากมายนะครับ พวกนี้คือพวกที่ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรจริงๆ ใหญ่กว่านักลงทุนที่เปิดเผยตัวตนด้วยซ้ำครับ เรื่องนี้คือเรื่องใหญ่ที่ประเทศไทยต้องตื่นตัวนะครับ และตลาดใหญ่ของธุรกิจ Start Up พวกนี้ก็คือประเทศโลกที่สาม ส่วนมากอยู่ในเอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกา ประเทศที่ยังไม่เท่าทันเทคโนโลยีนั่นเองครับ แล้วทำไมบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกถึงมาลงทุนกับ Start Up หรือครับคำตอบมันก็มีในตัวของมันอยู่แล้ว
ขั้นต่อไปก็คือ Fund Raising จาก Annoymous Investor ผู้ลงทุนที่ไม่เปิดเผยตัวตันครับ เช่น นักลงทุนคริปโต นักลงทุนที่ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร โดยแพลทฟอร์มนี้กำลังเป็นที่นิยมครับ จากที่เมื่อวานผมเขียนว่า เงินมันถูกฝังไว้ นั่นเป็นเรื่องจริงครับ นักลงทุนจากรัสเซีย และยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง มีการลงทุนในธุรกิจ Start Up มากมายนะครับ พวกนี้คือพวกที่ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรจริงๆ ใหญ่กว่านักลงทุนที่เปิดเผยตัวตนด้วยซ้ำครับ เรื่องนี้คือเรื่องใหญ่ที่ประเทศไทยต้องตื่นตัวนะครับ และตลาดใหญ่ของธุรกิจ Start Up พวกนี้ก็คือประเทศโลกที่สาม ส่วนมากอยู่ในเอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกา ประเทศที่ยังไม่เท่าทันเทคโนโลยีนั่นเองครับ แล้วทำไมบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกถึงมาลงทุนกับ Start Up หรือครับคำตอบมันก็มีในตัวของมันอยู่แล้ว
คงถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทย คงต้องหันกลับมาทบทวน นโยบายของ Start Up ในประเทศไทยแล้วนะครับ ว่าทุกวันนี้ มันเพียงพอหรือยัง ไม่ใช่โหมเป็นพิธี แต่มันหมายถึงการลงทุนทั้งระบบ ตั้งแต่นโยบาย การศึกษา การพัฒนาคน ไปจนถึงการนำนวัตกรรมไปขาย และการตลาดครับ..
สวัสดี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น