ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโตอาจส่งผลต่อสภาวะซึมเศร้า



คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมนักกีฬาบางคนที่ใช้ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต (Growth Hormone หรือ GH) ถึงมักมีปัญหาด้านจิตใจ? การศึกษาใหม่จากทีมแพทย์และนักวิจัยจากโรงพยาบาล St. Michael ในโตรอนโต ประเทศแคนาดา แสดงให้เห็นว่า ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH ไม่เพียงส่งผลต่อกล้ามเนื้อ แต่ยังสามารถทำให้เศร้าได้ด้วย (1) การค้นพบนี้มีนัยสำคัญอย่างมากสำหรับนักกีฬาที่ใช้ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH เป็นสารเสริมประสิทธิภาพของร่างกาย การสร้างกล้ามเนื้อ เป็นอย่างมาก

ทีมวิจัยได้ศึกษาผู้ป่วยโรคอะโครเมกาลี คือ คนที่มีฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH สูงผิดปกติจนทำให้ใบหน้าและมือใหญ่โตเหมือนยักษ์ สิ่งที่น่าสนใจคือ คนเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีร่างกายผิดปกติ พวกเขายังมีสภาวะซึมเศร้าสูงกว่าคนทั่วไปอย่างชัดเจน (2,3) ในอดีต นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยกลุ่มนี้เกิดจากความเครียดของการเป็นโรคเรื้อรัง แต่งานวิจัยใหม่นี้แสดงให้เห็นว่าฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH เองอาจเป็นสาเหตุโดยตรง
การศึกษาแบบไปข้างหน้า (Prospective Cohort Study) นี้ติดตามผู้ป่วยสองกลุ่ม คือ ผู้ป่วยอะโครเมกาลี 15 คน ที่มีระดับฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH สูงผิดปกติ และผู้ป่วยที่มีเนื้องอกต่อมใต้สมองแต่ไม่หลั่งฮอร์โมน 20 คน เป็นกลุ่มควบคุม ผลลัพธ์ที่ได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากผ่าตัดเอาเนื้องอกที่ผลิตฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH ออก ผู้ป่วยเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีสภาวะฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH กลับสู่ปกติ คะแนนของการตอบแบบสถอบถามสภาวะซึมเศร้าของพวกเขายังลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จาก 20% ที่มีอาการซึมเศร้าก่อนผ่าตัด กลายเป็นเพียง 6.7% หลังผ่าตัด ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราในประชากรทั่วไปของแคนาดาที่ 4.7% (4)

เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่การบังเอิญ นักวิจัยเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในสมองแต่ไม่หลั่ง GH ผลลัพธ์คือ คนกลุ่มนี้ยังคงมีระดับของสภาวะซึมเศร้าเหมือนเดิมแม้หลังผ่าตัดแล้ว จากข้อมูลอาจจะบอกเราได้ว่า ปัญหาอาจอยู่ที่ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH จากการวิเคราะห์สหสัมพันธ์พบว่า ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH มีความสัมพันธ์แบบปานกลางกับคะแนนความเศร้า (r = 0.52, p < 0.01) หมายความว่า ยิ่งระดับของ ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH สูง ยิ่งอาจจะมีสภาวะซึมเศร้าเพิ่มสูงขึ้น และสิ่งที่น่าสนใจคือฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH ส่งผลกระทบโดยเฉพาะกับความรู้สึกและอาการทางกายที่เกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้า
กลไกทางชีววิทยาที่อธิบายปรากฏการณ์นี้มีความซับซ้อนของฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH ไม่ได้ทำงานแค่ในกล้ามเนื้อ มันยังทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทในสมอง โดยมีจุดรับในส่วนสำคัญของสมอง เช่น ฮิปโปแคมปัส ที่ควบคุมความจำ และไฮโปธาลามัส ที่ควบคุมอารมณ์และระบบฮอร์โมน (5) เมื่อฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH มากเกินไป มันจะรบกวนการทำงานของสมองส่วนเหล่านี้ ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า ความสมดุลเป็นกุญแจสำคัญ งานวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า ทั้งฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH น้อยเกินไปและมากเกินไปต่างก็ส่งผลเสียต่ออารมณ์ คนที่ขาดฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH จะมีปัญหาด้านอารมณ์และความจำ และการให้ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH เสริมเข้าไปช่วยปรับปรุงอารมณ์ได้ (6) ส่วนคนที่มีฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH มากเกินไป เช่น ในผู้ป่วยที่มีสภาวะของอะโครเมกาลี ก็เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าเช่นกัน

ข้อมูลนี้มีนัยยะสำคัญอย่างมากสำหรับนักเพาะกายและนักกีฬาที่ใช้ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แม้ว่าการใช้ในกลุ่มนี้จะไม่ได้อยู่ในปริมาณสูงเท่าผู้ป่วยอะโครเมกาลี แต่การใช้ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH สังเคราะห์ในระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้ การศึกษาในนักกีฬาที่ใช้ GH พบว่า มีรายงานอาการทางจิตใจหลากหลาย เช่น ความวิตกกังวล การเปลี่ยนแปลงอารมณ์ และความรู้สึกหงุดหงิด (7) การใช้ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต อาจจะส่งผลถึงสภาวะข้างเคียงต่างๆ นอกจาก ความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้น ความสามารถที่เพิ่มขึ้นแล้ว อาจจะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงต่อโรคต่างๆด้วยเช่นกัน เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือปัญหาข้อต่อ แต่คนส่วนมากมักไม่ได้คิดถึงผลกระทบทางจิตใจ การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH อาจจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างชัดเจน




นักวิจัยพบว่าผู้ที่มีฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH สูงมักมีอาการหงุดหงิด วิตกกังวล และรู้สึกหดหู่ใจโดยไม่ทราบสาเหตุ บางคนอาจคิดว่าเป็นเพราะความเครียดจากการออกกำลังกายหนัก แต่ความจริงแล้วอาจเป็นเพราะฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH ที่ส่งผลต่อเคมีในสมอง การศึกษาในกลุ่มผู้ใช้ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH พบว่า อาการทางจิตใจมักเกิดขึ้นหลังจากใช้ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH ไประยะหนึ่ง และมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นตามระดับและระยะเวลาการใช้ (😎 หากนักกีฬาที่ใช้ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH พบอาการเศร้าใจ หดหู่ใจโดยไม่ทราบสาเหตุ หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับหรือนอนมากผิดปกติ เหนื่อยล้าแม้ไม่ได้ออกกำลังกายหนัก หรือไม่สนใจกิจกรรมที่เคยชอบ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
การค้นพบนี้เปิดมิติใหม่ในการรักษาภาวะซึมเศร้า ปัจจุบัน ยาต้านซึมเศร้าส่วนใหญ่ที่พัฒนาจากสมมติฐานโมโนอะมีน (Monoamine Hypothesis) เน้นที่สารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน แต่มีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพและผลข้างเคียงสูง (9) อนาคตอาจมีการรักษาที่มุ่งเป้าไปที่ระบบฮอร์โมน รวมถึงฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH ด้วย แพทย์อาจเริ่มตรวจระดับฮอร์โมนเป็นส่วนหนึ่งของการวินิจฉัยภาวะซึมเศร้า และอาจมีการพัฒนายาใหม่ที่ควบคุมระดับฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH เพื่อรักษาโรคซึมเศร้าในอนาคต นักวิจัยเสนอให้มีการประเมินระบบเนื้อฮอร์โมนเป็นพื้นฐานเพื่อช่วยทำนายการตอบสนองทางคลินิกของผู้ป่วยซึมเศร้าต่อยาต้านซึมเศร้า เนื่องจากอัตราความล้มเหลวของการรักษาแบบเดิมยังสูงอยู่ (10)

การศึกษานี้สอนให้เราเห็นว่าร่างกายเป็นระบบที่เชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน สิ่งที่เราคิดว่าดีต่อร่างกายอาจไม่ได้ดีต่อจิตใจเสมอไป การใช้ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต GH เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ หรือ สมรรถภาพ อาจให้ผลลัพธ์ทางกายที่ต้องการ แต่อาจมาพร้อมกับราคา ที่ต้องจ่าย นั่นก็คือ ความเสี่ยงต่อร่างกายและทางจิตใจที่ไม่คาดคิด สำหรับนักกีฬา การพิจารณาใช้สารเสริมใดๆ ควรชั่งน้ำหนักผลประโยชน์และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ไม่เพียงแต่ในด้านสุขภาพกาย แต่รวมถึงสุขภาพจิตด้วย การมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงแต่จิตใจที่เศร้าหมองนั้น คงไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของการออกกำลังกาย การค้นพบนี้เป็นอีกหนึ่งเครื่องเตือนใจว่า "สุขภาพที่แท้จริงคือความสมดุลระหว่างกายและใจ" และบางครั้ง การไล่ตามร่างกายที่สมบูรณ์แบบอาจทำให้เราพลาดไปความสำคัญของจิตใจที่สมบูรณ์
--------------------------
เอกสารอ้างอิง
1. Algahtany M, Sharma S, Fahoum K, Jing R, Zhang S, Kovacs K, et al. The Role of Growth Hormone in Depression: A Human Model. Front Neurosci. 2021;15:661819.
2. Sievers C, Dimopoulou C, Pfister H, Lieb R, Steffin B, Roemmler J, et al. Prevalence of mental disorders in acromegaly: A cross-sectional study in 81 acromegalic patients. Clin Endocrinol (Oxf). 2009;71(5):691-701.
3. Geraedts VJ, Dimopoulou C, Auer M, Schopohl J, Stalla GK, Sievers C. Health outcomes in acromegaly: depression and anxiety are promising targets for improving reduced quality of life. Front Endocrinol (Lausanne). 2015;5:229.
4. Pearson C, Janz T, Ali J. Mental and substance use disorders in Canada. Health at a Glance. Statistics Canada Catalogue no. 82-624-X. 2013.
5. Butler AA, Kozak LP, Hwa JJ. Growth hormone signaling in the brain: Implications for cognitive function and aging. Trends Endocrinol Metab. 2019;30(7):456-68.
6. Arwert LI, Deijen JB, Müller M, Drent ML. Long-term growth hormone treatment preserves GH-induced memory and mood improvements: A 10-year follow-up study in GH-deficient adult men. Horm Behav. 2005;47(3):343-9.
7. Krogh J, Nordentoft M, Mohammad-Nezhad M, Westrin A. Growth hormone, prolactin and cortisol response to exercise in patients with depression. J Affect Disord. 2010;125(1-3):189-97.
8. Chávez-Castillo M, Núñez V, Nava M, Ortega Á, Rojas M, Bermúdez V, et al. Depression as a neuroendocrine disorder: Emerging neuropsychopharmacological approaches beyond monoamines. Adv Pharmacol. 2019;86:287-305.
9. Juruena MF, Bocharova M, Agustini B, Young AH. Atypical depression and non-atypical depression: is HPA axis function a biomarker? A systematic review. J Affect Disord. 2018;233:45-67.
10. Klimes-Dougan B, Westlund Schreiner M, Thai M, Gunlicks-Stoessel M, Reigstad K, Cullen KR. Neural and neuroendocrine predictors of pharmacological treatment response in adolescents with depression: A preliminary study. Prog Neuropsychopharmacol Biol Psychiatry. 2018;81:194-202.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มวยไทย: ศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ได้เป็นของประเทศไทยเพียงชาติเดียว กับกระแสการไหลบ่าของวัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขนาดนวม: ความเชื่อ ความจริง และการป้องกันการบาดเจ็บ ในนักกีฬาต่อสู้

การกระทบกระเทือนของสมองจากการเล่นกีฬา: ภัยเงียบที่ต้องระวัง