การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมฟิตเนสยังคงเพิ่มแรงผลักดันอย่างต่อเนื่อง

INDIANAPOLIS — การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมฟิตเนสยังคงเพิ่มแรงผลักดันอย่างต่อเนื่อง โดย Wearable Technology, Mobile Exercise Apps และ Data-Driven Training Technology ติดอันดับ 10 อันดับแรกของ 2025 ACSM Worldwide Fitness Trends รายงานนี้ได้รับการเผยแพร่ในวันนี้โดย American College of Sports Medicine ในวารสาร ACSM’s Health & Fitness Journal® ฉบับเดือนพฤศจิกายน/ธันวาคม โดยอ้างอิงจากการสำรวจประจำปีจากผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมฟิตเนสจำนวน 2,000 คน Wearable Technology ถูกจัดให้เป็นเทรนด์อันดับหนึ่งสำหรับปี 2025 ตามมาด้วย Mobile Exercise Apps (อันดับ 2) และ Exercise Programs for Older Adults (อันดับ 3)

ผลการวิจัยเหล่านี้ให้ข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านฟิตเนส เจ้าของธุรกิจ และผู้ที่สนใจการออกกำลังกาย พร้อมทั้งช่วยให้ตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญเกี่ยวกับธุรกิจและการพัฒนาวิชาชีพได้อย่างเหมาะสม

"เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังมีความสำคัญมากขึ้นในวิธีที่เราออกแบบ นำเสนอ และประเมินบริการด้านสุขภาพและฟิตเนส" กล่าวโดย ดร. A’Naja Newsome, ACSM Certified Exercise Physiologist และผู้เขียนร่วมของ 2025 ACSM Worldwide Fitness Trends: Future Directions of the Health and Fitness Industry “อุปกรณ์สวมใส่ แอปพลิเคชันมือถือ และวิธีการฝึกซ้อมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล จะช่วยเปิดโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่และยกระดับประสบการณ์ด้านฟิตเนส ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายจำเป็นต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในวิธีการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความร่วมมือและความอิสระของลูกค้า”



Mobile Exercise Apps ติดอันดับสอง โดยยังคงเน้นย้ำความสำคัญของเทคโนโลยี นี่เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่พุ่งขึ้นมาเร็วที่สุดในรายการ โดยในสองปีที่ผ่านมามีการพัฒนาจากอันดับที่ 20 มาเป็นอันดับ 2 ในปี 2025 ในปี 2023 มีการดาวน์โหลดแอปฟิตเนสถึง 850 ล้านครั้ง โดยมีผู้ใช้งานเกือบ 370 ล้านคน ความนิยมนี้ รวมถึงการทำงานที่เสริมกันกับ Wearable Technology อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้แอปฟิตเนสก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งนี้อย่างรวดเร็ว

เทรนด์ด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมอีกหนึ่งด้านใน 10 อันดับแรก คือ Data-driven Training Technology ซึ่งพัฒนาจากอันดับที่ 18 ในปี 2024 มาเป็นอันดับที่ 7 ในปี 2025 ข้อดีของเทคโนโลยีการฝึกซ้อมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ได้แก่ ความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการตอบสนองทางสรีรวิทยาต่อการออกกำลังกายในเวลาจริง การโค้ชชิ่งและคำแนะนำแบบเฉพาะบุคคล แม้จะอยู่ในกลุ่มที่มีระดับความฟิตที่หลากหลาย และการใช้ Biofeedback (เช่น การนอนหลับและความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ) เป็นส่วนสำคัญของการฝึกซ้อมและการฟื้นฟู นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายยังสามารถใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อปรับแต่งโปรแกรมการออกกำลังกายในแต่ละวันให้เหมาะสมกับสภาวะเฉพาะหน้าและสภาวะเรื้อรัง ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยของการออกกำลังกายสำหรับกลุ่มประชากรพิเศษ

"ลูกค้าต้องการข้อมูลย้อนกลับแบบทันทีเกี่ยวกับการฝึกซ้อมของพวกเขา เพื่อให้สามารถปรับหรือแก้ไขการออกกำลังกายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ" Newsome กล่าว "เราเห็นสิ่งนี้ในการวางโปรแกรมแบบเฉพาะบุคคลและในคลาสกลุ่มด้วย"

นอกเหนือจากเทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว ยังมีสองหมวดหมู่หลักที่ปรากฏใน 10 อันดับแรก ได้แก่ Training Modalities และ Fitness Programming ตัวอย่างเช่น Exercise Programs for Older Adults (#3), Exercise for Weight Loss (#4) และ Exercise for Mental Health (#8) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ที่เน้นไปยังโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของกลุ่มเป้าหมาย

ในด้านของ Training Modalities เทรนด์ที่ติดอันดับ 10 อันดับแรก ได้แก่ Traditional Strength Training (#5), High Intensity Interval Training (#6) และ Functional Fitness Training (#9)

จาก 10 อันดับเทรนด์ มีเพียง Health and Wellness Coaching (#10) ที่ไม่ได้อยู่ในสามหมวดหมู่หลักของเทรนด์ที่เน้นเทคโนโลยีดิจิทัล, การออกกำลังกายที่ออกแบบเฉพาะ และการฝึกซ้อมเฉพาะกลุ่ม

การค้นพบและจุดเด่นอื่น ๆ จากการสำรวจ 2025 Fitness Trends ได้แก่:

  • โปรแกรมฟิตเนสที่นำโดยอินฟลูเอนเซอร์/แอมบาสเดอร์ ปรากฏในอันดับที่ 12 และมีความเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีดิจิทัล เทรนด์นี้เกี่ยวข้องกับการใช้ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจด้านสุขภาพและฟิตเนสในการสร้างเนื้อหาผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียออนไลน์เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย
  • เทรนด์ใหม่ที่ปรากฏในปี 2025 ได้แก่ Hot and Cold Therapies (#20) และ Exercise in Cancer Treatment (#29)
  • การเปรียบเทียบเทรนด์ระดับโลก รวมถึงข้อมูลที่ได้จากแปดภูมิภาค ทำให้เกิดความเข้าใจที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมสุขภาพและฟิตเนส
  • บทวิจารณ์พิเศษในรายงานปี 2025 รวมถึง:
    • International Commentary of the Worldwide Survey of Fitness Trends
    • Employer Perspective: Insights and Practical Applications of the 2025 Fitness Trends

10 อันดับเทรนด์ฟิตเนสปี 2025:

  1. Wearable Technology
  2. Mobile Exercise Apps
  3. Fitness Programs for Older Adults
  4. Exercise for Weight Loss
  5. Traditional Strength Training
  6. High Intensity Interval Training (HIIT)
  7. Data-driven Training Technology
  8. Exercise for Mental Health
  9. Functional Fitness Training
  10. Health and Wellness Coaching
https://www.acsm.org/news-detail/2024/10/22/acsm-announces-top-fitness-trends-for-2025

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มวยไทย: ศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ได้เป็นของประเทศไทยเพียงชาติเดียว กับกระแสการไหลบ่าของวัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ใครว่าพาร์กินสันออกกำลังกายไม่ได้ ลงวิ่งอัลตร้าเทรลกันเลยทีเดียว

ฝึกความแข็งแรงของขาด้วย Suspension Trainer: อุปกรณ์เดียวเสริมสร้างความแข็งแรงที่ติดตั้งง่ายและจบในเครื่องเดียว