วันนี้จะขอสรุปเกี่ยวกับการฝึกแบบ Supramaximal Training ให้ฟังนะครับ ผมต้องออกตัวก่อนนะครับผมไม่ได้เป็นด็อกเตอร์ทางด้านสนรีรวิทยานะครับ อย่างไรถ้าหากผิดถูกประการใดก็ยินดีแลกเปลี่ยนนะครับ ก่อนอื่นท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมจึงต้องมีการฝึกแบบ Supramaximal Training หรือการฝึกที่ระดับความหนักสูงกว่าปกตินะครับ เราลองมาดูกีฬาที่เห็นง่ายๆนะครับ อย่างกีฬาว่ายน้ำ ตีกรอบให้แคบลงก็อาจจะลงไปในระดับอาเซียนเรานะครับ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ผ่านมา นักกีฬาว่ายน้ำเองทำผลงานได้ไม่ตามเป้าหมายเสียเท่าไร ยิ่งถ้าออกไปในระดับเอเชีย ผลงานนี้ถูกมหาอำนาจทางด้านการกีฬาทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่น ตรงกันข้าม นักกีฬาว่ายน้ำ ของประเทศญี่ปุ่น ทำไมทำสถิติดีวันดีคืน ผมขอตั้งโจทย์จากผลการแข่งขันแล้วกันนะครับ สมมติว่าเป็นการว่ายน้ำ 200 เมตรฟรีสไตลล์ สถิติ ของไมเคิลเฟลป์ อยู่ที่ 1:42.96 สำหรับของซีเกมส์ ของ Welson Sim อยู่ที่ 1:47.36 เราจะเห็นความแตกต่างของเวลาเกือบ 5 วินาที ถ้าเราตั้งสมมติฐานว่า นักกีฬาทั้งสองคนว่ายที่ความสามารถ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น จากข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า ถ้ารายังฝึกซ้อมแบบเดิมๆ ตามคอร์ทเดิมๆ นั่นคือ ไม่มีโอกาสได้เหรียญอะไรเลยในโอลิมปิคเกมส์นะครับ แสดงว่านักกีฬาสองคนนี้ที่ระดับความสามารถของ วิลสัน ซิม อาจจะเป็นแค่เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของเฟลป์ คราวนี้เราย้อนกลับมาดูทฤฎีการฝึกซ้อมนะครับ ในเรื่องของ Law of Overload กันบ้าง ที่เราให้ความหนักการฝึกซ้อมสูงๆ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการพัฒนา นั่นแสดงว่าความหนักของการฝึกซ้อมเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากนะครับ ในการกระตุ้นการพัฒนาของนักกีฬา สำหรับกีฬาที่ต้องการสถิติ เรามักใช้เวลาเป็นเสมือนเป้าหมายของนักกีฬา นะครับ ซิ่งจริงๆแล้วมันเป็นสิ่งที่หยาบเกินไปสำหรับการกำหนดการฝึกซ้อมได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นสรีรวิทยาจึงเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างยิ่งนะครับสำหรับการวางแผนการฝึกซ้อมได้อย่างแม่นยำ นอกจากการพัฒนาของสถิติแล้ว เราจะบอกได้ยังไงว่า สถิติที่พัฒนาขึ้นนั้น มันเกิดจากอะไร เทคนิค สมรรถภาพทางกาย หรือ จิตใจ นั่นเป็นการยากที่จะบอกได้นะครับ ดังนั้นเมื่อเราหาที่มาที่ไปไม่ได้ ตามหลักของเหตุผล เราก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องนั่นเองครับ โปรแกรมการฝึกซ้อมที่มีประสิทธิภาพจึงต้องออกแบบจากข้อมูลทางสรีรวิทยาของนักกีฬาคนนั้นๆ ไม่ใช่ค่าเฉลี่ยของทีมครับ เช่น ในทีมมีนักกีฬาว่ายน้ำฟรีสไตลล์สามคน เราก็ควรจะออกแบบโปรแกรมการฝึกซ้อมให้เป็นเฉพาะบุคคลนะครับ สำหรับในกีฬาว่ายน้ำนั้น ระบบพลังงานที่เราใช้กันนั้นก็จะมีกันอยู่สองระบบใหญ่ๆ นะครับ คือ แอโรบิค ระบบพลังงานที่ใช้ออกซิเจนเข้าไปสร้างพลังงานจากการเผาผลาญอาหาร ส่วนอีกระบบหนึ่งก็คือ ระบบแอนแอโรบิคนะครับ เป็นระบบทีแทบจะไม่ใช้ออกซิเจนในการสร้างพลังงาน แต่จะเกิด ผลผลิตขึ้นมานั่นก็คือแลคเตทที่จะส่งผลต่อความสามารถของนักกีฬาครับ ยิ่งถ้าแลคเตทมีมากเกินกว่าที่ร่างกายสามารถทนได้ นั่นก็จะส่งผลต่อความสามารถของนักกีฬาแน่นอนครับ ในกีฬาว่ายน้ำ จึงควรจะมีการวัดโหลดทางสรีรวิทยาในระหว่างการฝึกซ้อมด้วย การวัดการทดสอบการติดตามก็เหมือนกับการต่อจิ๊กซอว์นะครับ ถ้าเรามีข้อมูลยิ่งมาก เราก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่ถ้าเราใช้ Verb to เดา ขึ้นมานอกจากจะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด แล้ว ยังทำให้เกิดการสะสมของปัญหา ตามทฤษฎีของภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งบางปัญหาเราเห็นเพราะมันเป็นยอดภูเขาน้ำแข็ง แล้วปัญหาที่อยู่ใต้ยอดภูเขาหละจะทำอย่างไร การทดสอบจึงเป็นหัวใจหลักที่สำคัญอย่างมากครับ ระบบพลังงานสำหรับการว่ายน้ำก็จะมีความแตกต่างกันนะครับ ประเภทสปรินท์ก็จะมีการใช้ระบบพลังงานแบบหนึ่ง ส่วนประเภทว่ายระยะไกล ก็จะใช้ระบบพลังงานอีกระบบหนึ่ง ดังนั้นกุศโลบายในการที่นักกีฬาคนหนึ่งจะกวาดทุกเหรียญนั้น คงจะเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองต้องเข้าใจ และตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนก่อนที่จะออกแบบโปรแกรมการฝึกซ้อมครับ แนวคิดของ Supramaximal นั้นถูกประยุกต์มาจากงานวิจัยของศาสตราจารย์ ทาบาตะ ซึ่งแนวคิดก็คือ พยายามหาวิธีการฝึกซ้อมที่สามารถพัฒนาสมรรถภาพของนักกีฬาให้ได้สูงสุด ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งหลักการก็จะคล้ายกับ High Intensity ที่ความหนักมากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการใช้ออกซิเจนสูงสุด ครับ ความหนักที่ใช้ในการฝึกก็จะอยู่ที่ 135-180 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการใช้ออกซิเจนสูงสุด สิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงในการฝึกซ้อมที่ระดับความหนักสูงนั้นก็คือ ประสิทธิภาพการทำงานของระบบหัวใจและไหลเวียนเลือดนะครับ ก่อนที่จะต้องทำการฝึกซ้อมจะต้องมีการตรวจสภาพหัวใจ ทั้งฟังก์ชั่นการทำงาน และ โครงสร้างของหัวใจ ด้วยการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (Echo Cardiogram) เพื่อหาความผิดปกติของของระบบหัวใจก่อนนะครับ นักกีฬาส่วนมากไม่ค่อยจะได้ตรวจเสียเท่าไร ซึ่งจะพบความเสี่ยงเป็นอย่างมากนะครับ เมื่อมีการฝึกซ้อมที่ระดับความหนักสูงๆ สูงมาก นะครับ ดังนั้นถ้าเรามุ่งเป้าว่าจะต้องการความสำเร็จ ก็จะต้องใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ด้วยนะครับ
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเขียนต่อนะครับ ตอนต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น