ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ความเชื่อมั่นของการวัดปริมาณแลคเตทสูงสุดที่สภาวะคงที่ (MLSS)


ในกีฬาประเภทที่ต้องการความอดทนในระดับสูงๆ นั้น กรดแลคติก เป็นตัวแปรหนึ่งที่สำคัญเกี่ยวกับสมรรถภาพทางกายด้านความอดทน เช่นเมื่อเริ่มปั่นจักรยานเราจะมีความเร็วหนึ่งที่เราปั่นแล้วรู้สึกสบาย ไม่เมื่อยล้า แต่ถ้าเราเพิ่มความเร็วในการปั่น กล้ามเนื้อก็จะเริ่มล้านั่นเป็นเพราะเริ่มมีการสะสมของกรดแลคติก หากมีปริมาณสูงก็จะส่งผลต่อการลดลงของ พลังและความเร็วในการขี่จักรยานในนักจักรยาน ในนักวิ่งก็ทำให้เกิดการลดลงของฝีก้าวและความเร็วในการวิ่ง เป็นต้น ดังนั้นการทดสอบปริมาณาความเข้มข้นของกรดแลคติกสูงสุดในสภาวะที่คงที่จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพื่อทำให้เราได้ทราบถึงความสามารถสูงสุดของเราในสภาวะที่ไม่มีการเพิ่มขึ้นของกรดแลคติก

Image result for lactate testing plus

โดยปกติแล้วเวลาเราทดสอบความอดทนเราจะใช้วิธีการเพิ่มความหนักในการทดสอบขึ้นไปเรื่อยๆ (Incremental Test) ในการทดสอบความสามารถของนักกีฬา หรือ การออกกำลังกาย ซึ่งโดยมากจะเป็นการหาปริมาณการใช้ออกซิเจนสูงสุด และจุดที่เริ่มมีการสะสมของกรดแลคติกในเลือด (Onset Blood Lactate Accumulation: OBLA) แต่แนวคิดของ MLSS คือการรักษาความหนักของงานสูงสุดให้ได้ในสภาวะคงที่ ไม่มีการเพิ่มขึ้นของกรดแลกติกหรือยอมให้เพิ่มขึ้นได้น้อยกว่า 0.05 มิลลิโมลต่อลิตรต่อนาที ถ้าหากเกิดการสะสมของกรดแลคติกขึ้น จะทำให้ไม่สามารถรักษาระดับความหนักของการฝึกซ้อมหรือออกกำลังกาย มีการศึกษาหนึ่งที่น่าสนใจเป็นการเทียบแบบวันต่อวัน ของการเปลี่ยนแปลงของ พลัง และอัตราการเต้นของหัวใจที่จุดที่มีปริมาณความเข้มข้นของกรดแลคติกสูงที่สุดในสภาวะคงที่ โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 32 คน(25 ± 3 years, 180 ± 7 cm, 76 ± 8 kg) ออกแบบการทดลองเป็น Time Course Analysis การวิเคราะห์บนพื้นฐานของเวลา โดยทำการเจาะกรดแลคติกที่บริเวณใบหู ในนาที ที่ 0,4,8, 10 ,14 ,18, 22, 26 และนาทีที่ 30 โดยการปั่นจักรยานที่ความหนักคงที่เป็นระยะเวลา 30 นาที พลังสูงสุดในการปั่นจักรยานนั้นคือ ค่าพลัง ที่สามารถรักษาได้ โดยไม่มีการสะสมของ ความเข้มข้นของกรดแลคติก มากกว่า 0.05 มิลลิโมลต่อลิตร ในช่วง 20 นาสุดท้ายซึ่งมีค่าพลังในการปั่นจักรยานอยู่ที่ 244 +/-45 วัตต์หรือประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ของ VO2max ค่าเฉลี่ยอัตรากาเต้นของหัวใจอยู่ที่166 +/- 10 bpm จะเห็นได้ว่า ที่จุด MLSS ค่าของพลังและอัตราการเต้นของหัวใจนั้น มีลักษณะของการแปรปรวนแบบวันต่อวันต่ำกว่า ถ้าหากเปรียบเทียบกับแนวคิดของการใช้การวัดจุดเริ่มล้าในการออกกำลังกาย (Lactate Threshold Concept)
Image result for Sunweb cycling

ดังนั้นการใช้ค่าปริมาณกรดแลคติกสะสมสูงสุด ที่สภาวะคงที่นั้น แสดงให้เห็นความแปรปรวนระหว่างวันได้น้อยกว่า คอนเซปต์ของการใช้จุดเริ่มล้าในการฝึกซ้อม ดังนั้นวิธีการทั้งสองวิธี ระหว่างการวัดจุดเริ่มล้า และ การวัดปริมาณการสะสมของแลคเตทสูงสุดที่สภาวะคงที จะไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกันได้ กล่าวคือ ถ้าจะเลือกใช้วิธีการใด ก็ให้เลือกวิธีการหนึ่ง จะใช้ MLSS หรือ OBLA ก็ใช้ไปได้เลยครับ แต่ดูเหมือนว่าคอนเซปต์ของ MLSS จะใกล้เคียงกับกีฬาที่ต้องใช้ความอดทนมากกว่า OBLA ในการฝึกซ้อม ไม่ควรเอามาใช้เทียบกันนั่นองครับ สิ่งสำคัญที่จะต้องพิจารณาถึงก็คือ การเจาะเลือดเพื่อวัดปริมาณกรดแลคติก ถ้าเรามีช่วงห่่างมาก อาจจะทำให้ไม่ได้ค่าที่แม่นยำนักดังนั้นการออกแบบงานวิจัยแบบ Time Course Analysis จึงต้องคำนึงถึงระยะเวลาในการวัดแต่ละช่วงเป็นอย่างมาก เคยมีการศึกษาชิ้นหนึ่งใช้การออกแบบการวิจัยเป็นแบบ Time Course แต่มีระยะห่างของการวัดที่มากเกินไป ทำให้ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน โดยเฉพาะงานวิจัยที่จะต้องวัดค่าทางชีวเคมี ในเลือด หรือ การทำไบออพซี่ ควรจะต้องมีการศึกษางานวิจัยก่อนหน้าที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันด้วยนะครับ เพื่อจะได้กำหนดจุดในการวัดได้อย่างใกล้เคียงมากที่สุดครับ


Hauser T, Bartsch D, Baumgärtel L, Schulz H. Reliability of maximal
lactate-steady-state. Int J Sports Med. 2013 Mar;34(3):196-9. doi:
10.1055/s-0032-1321719. Epub 2012 Sep 12. PubMed PMID: 22972242.

ขอบคุณที่อ่านจนจบ!
Schet
ไม่ได้เรียน CSCS



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ใครว่าพาร์กินสันออกกำลังกายไม่ได้ ลงวิ่งอัลตร้าเทรลกันเลยทีเดียว

พาร์กินสันก็ลงอัลตร้า ได้นะ Parkinson and Exercise... วันนี้ขออนุญาตแชร์เรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับโรคพาร์กินสัน ให้ฟังนะครับ เพื่อนผมชาวแคนนาดา เป็นครูสอนว่ายน้ำ อาศัยอยู่ที่ฮ่องกงครับ เขาถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน มาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หลังจากที่เขาทราบว่าป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ก็ไม่ต่างอะไรกับคนส่วนใหญ่ที่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งหรอกครับ แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตเขานั่นก็คือการออกกำลังกาย นั่นเอง หลังจากที่เริ่มฝึกออกกำลังกายอย่างจริงจังเมื่อประมาณ สิบเดือนที่แล้ว คริส  ก็เริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจังและซ้อมวิ่ง ภายใ้ต้การดูแลโดยสตีฟ เน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก (อากาศนิยม) และ ฝึกความแข็งแรง รวมทั้งการเคลื่อนไหวของข้อต่อ Joint Mobility เราเลือกการฝึกแบบแอโรบิค โดยการคุม โซนอัตราการเต้นของหัวใจครับ และทดสอบระดับแลคเตททุกๆเดือน การกำหนดโปรแกรมเนื่องจากข้อจำกัดของคริส คือ ไม่สามารถจะทำการทดสอบ VO2max แบบทางอ้อม สตีฟ ได้เลือกวิธีการทดสอบด้วย Non-Exercise Test แลนำมาหาความสัมพันธ์กับการเจาะแลคเตท ด้วยวิธีการ Cooper's test ครับ วันนี้คริส สามารถจบรายการ Cordillera Conservation T

Full Squat VS Half Squat มุมมองในเชิงชีวกลศาสตร์

ศิริเชษฐ์  พูลทิพายานนท์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา มศว เป็นที่ถกเถียงกันในวงการเทรนเนอร์ในเรื่องของ Half Squat VS Full Squat นะครับ วันนี้เลยอยากจะเสนอมุมมองใหม่ในทางชีวกลศาสตร์กันดูบ้างสำหรับเรื่องของการสควอท ท่ายอดฮิตนะครับ สำหรับเทรนเนอร์ทั้งหลาย  โดยวันนี้ผมจะขอเขียนเป็นสามด้านนะครับ เปรียบเทียบกันทั้งสองท่าน ระหว่าง Half Squat และ Full Squat แต่ต้องขอออกตัวก่อนนะครับ นี่เป็นเพียงแค่การทำตัวอย่างนะครับ ยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด สำหรับว่าท่าไหนจะดีกว่ากันนะครับ ซึ่งจะต้องมีการศึกษาวิจัยกันอีกต่อไป แต่ที่แน่นอนนั่นก็คือ จุดมุ่งหมายแตกต่างกันแน่นอน ครับ แต่การนำไปใช้ก็ต้องมีข้อควรระวังด้วยนะครับ  *****ไม่งั้นจะหาว่าเจ้าของบล็อกไม่เตือน**** ผมทดลอง Squat อาสาสมัครเป็นผู้หญิง น้ำหนักประมาณ 65 กิโลกรัม ส่วนสูง 170.5 เซนติเมตร ผมลองทำโมชั่นแคปเจอร์ ของอาสาสมัคร โดยทำท่าสควอท สองแบบ นะครับ แบบแรกก็คือ การทำ Half Squat และ อีกแบบนึงก็คือการทำ Full Squat ครับ โดยผมเก็บการเคลื่อนไหว ด้วย IMU Sensors ซึ่งเป็นเซนเซอร์วัดความเร่งและการเคลื่อนไหวติดตาม ส่วนต่างๆของร่างกาย จากนั

EMMAA ระงับกิจกรรมทั้งหมดกับ IMMAF

  วันที่ 4 พฤษภาคม 2023 - สมาคมศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานแห่งอังกฤษ (EMMAA) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาจะระงับการมีส่วนร่วมของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ตัดสินจากการแข่งขันและกิจกรรมทั้งหมดของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานนานาชาติ (IMMAF) จนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม เหตุผลของการตัดสินใจ การตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากจดหมายที่ EMMAA ส่งเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2023 ซึ่งได้รายงานถึงปัญหาด้านการปกป้องเด็กและการล้มเหลวของ IMMAF ที่ไม่ดำเนินการแก้ไขในเวลาที่ควร การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากมุมมองทางศีลธรรมและความซื่อสัตย์ หลังจากการปรึกษาหารือกับที่ปรึกษากฎหมายมืออาชีพ ประวัติความเป็นมาของ IMMAF แม้ว่า IMMAF จะเคยให้โอกาสและความทรงจำที่ดีแก่นักกีฬาของ EMMAA มาโดยตลอด แต่ปัจจุบันมาตรฐานของ IMMAF ได้เสื่อมโทรมลงอย่างมาก ทำให้ EMMAA ต้องตัดสินใจระงับการมีส่วนร่วมของตน ความขอบคุณต่อทีมงาน EMMAA ขอบคุณทีมงานอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการจัดการแข่งขันของ IMMAF อย่างไรก็ตาม EMMAA เห็นว่า ประธานกรรมการ ผู้บริหาร และคณะกรรมการของ IMMAF ได้ล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่