🏆 บทความนี้แต่งขึ้นจากเหตุการณ์จริง อุทิศให้กับทุกท่านที่แสดงตัวอย่างให้เห็นเพื่อนำมาเป็นวิทยาทานในการถ่ายทอดสู่คนรุ่นต่อไป "ถ้าไม่ขึ้นไปเป็นจ่าฝูง ก็จะกลายเป็นเหยื่อ!" วลีเด็ดที่อาจฟังดูเว่อร์ แต่กลับใกล้เคียงกับความจริงในชีวิตการทำงานของมนุษย์อย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะในองค์กรที่แข่งกันเหมือนสนามกีฬา…หรือบางทีก็เหมือนสนามรบนะ! ทำไมมนุษย์ถึงไม่รู้จักพอ? ทำไมบางคนถึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขึ้นสู่อำนาจ แม้ต้อง "เหยียบหัว" คนอื่น? บทความนี้จะพาไปวิเคราะห์ความกระหายอำนาจของมนุษย์ ผ่านมุมมองของ จิตวิทยาการกีฬา (Sport Psychology) และ ทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจเกมอำนาจในองค์กรได้แบบมันส์ ๆ! 🧠 มนุษย์ = สิ่งมีชีวิตที่ต้องการ "รู้สึกมีค่า" เริ่มจากพื้นฐานก่อน…มนุษย์มีความต้องการทางจิตวิทยาพื้นฐานที่เรียกว่า Self-determination theory (SDT) หรือ "ทฤษฎีการกำหนดตนเอง" โดยมี 3 องค์ประกอบหลัก คือ: ความสามารถ (Competence) – อยากรู้สึกเก่ง อยากได้รับการยอมรับ จากคนรอบข้าง เพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งสังคม ว่าเป็นคนที่เก่ง มีความส...
ประเด็นเรื่องค่า Urine Specific Gravity (USG) ที่เกินมาตรฐานในกรณีของซุปเปอร์เล็กเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและน่าสนใจในแง่วิทยาศาสตร์การกีฬา เมื่อพิจารณาข้อสงสัยว่าค่า USG ที่เกินอาจไม่ได้เกิดจากการลดน้ำหนักอย่างรีบเร่ง แต่อาจมาจากการบริโภคอาหารโปรตีนสูง เข้าใจค่า Urine Specific Gravity USG เป็นการวัดความเข้มข้นของปัสสาวะ โดยเปรียบเทียบความหนาแน่นของปัสสาวะกับน้ำบริสุทธิ์ ค่าปกติอยู่ระหว่าง 1.005-1.030 ในคนทั่วไป แต่สำหรับนักกีฬาที่ต้องชั่งน้ำหนัก องค์กรกีฬาหลายแห่งกำหนดเกณฑ์ที่เข้มงวด โดยมักกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1.020-1.025 เพื่อป้องกันการขาดน้ำอย่างรุนแรง[1] ปัจจัยที่มีผลต่อค่า USG นอกเหนือจากการขาดน้ำ 1. อาหารโปรตีนสูง : การศึกษาในวารสาร Journal of Athletic Training พบว่านักกีฬาที่บริโภคโปรตีนสูง (>2g/kg น้ำหนักตัว/วัน) มีแนวโน้มที่จะมีค่า USG สูงขึ้น เนื่องจากกระบวนการเมแทบอลิซึมของโปรตีนสร้างของเสียไนโตรเจน (urea) ที่ต้องขับออกทางปัสสาวะ[2] Poortmans และ Dellalieux (2000) พบว่านักกีฬาที่บริโภคโปรตีนสูงถึง 2.8 g/kg/วัน มีระดับ urea ในปัสสาวะสูงกว่าคนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ[3] 2. โซเดียมและ...