วันก่อนอ่านเจอบทความเกี่ยวกับ ซอฟท์พาวเวอร์กับมวยไทย โดย รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร | 14 กันยายน 2567 ท่านเคยเป็นรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการซอฟท์พาวเวอร์ของรัฐบาล กับกีฬามวยไทย ก่อนอื่นถ้าหากเราเข้าใจเกี่ยวกับ Soft Power หรือ อำนาจละมุน คือ ความสามารถในการโน้มน้าวใจ หรือจูงใจให้ผู้อื่นอยากทำตาม หรือเห็นด้วยกับเรา โดยไม่ต้องใช้กำลังบังคับขู่เข็ญ หรือใช้อำนาจทางเศรษฐกิจหรือการทหารเข้าแทรกแซง
อำนาจละมุนนี้เกิดจากหลายปัจจัย เช่น วัฒนธรรม ค่านิยม แนวคิด และนโยบายต่างประเทศ ซึ่งล้วนส่งผลต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของประเทศนั้นๆ ในสายตาชาวโลก ยิ่งประเทศใดมี Soft Power สูง ก็ยิ่งมีโอกาสในการสร้างความร่วมมือและมิตรภาพกับนานาประเทศได้มากขึ้น
ตัวอย่าง Soft Power ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา เช่น:
ฟุตบอลอังกฤษ: พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เป็นหนึ่งในลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ดึงดูดแฟนบอลทั่วโลก ทำให้อังกฤษมีอิทธิพลทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ
บาสเกตบอลอเมริกัน: NBA ถือเป็นลีกบาสเกตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนทั่วโลก และเผยแพร่วัฒนธรรมอเมริกันไปทั่วโลก
โอลิมปิก: มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเป็นเวทีที่รวมนักกีฬาจากทั่วโลก ส่งเสริมสันติภาพและความเข้าใจระหว่างประเทศ
เราไปติดตามบทความของท่านอาจารย์ ถึงข้อห่วงใย นี่คือสิ่งที่น่ารับฟังเป็นอย่างยิ่งสำหรับวงการมวยไทย
วันนี้ขอต่อเรื่อง soft power อีกสักนิดนะครับ เนื่องจากผมเป็นแฟนมวยมาตั้งแต่เด็ก ติดตามดูนักมวยทั้งมวยไทยมวยสากล ไปดูในสนามมวยทั้งราชดำเนินและลุมพินี เมื่อนักมวยคนโปรดชนะ ก็มักจะรีบวิ่งไปขอจับมือแสดงความยินดีในห้องพักนักมวย นักมวยคนโปรดในยุคนั้นสำหรับนักมวยไทยก็มี อดุลย์ ศรีโสธร อภิเดช ศิษย์หิรัญ แสนชัย เทอดไทย นักมวยสากลมีคนเดียว คือชาติชาย แหลมฟ้าผ่า ภายหลังเปลี่ยนเป็น ชาติชาย เชี่ยวน้อย ในยุคต่อจากนั้นผมอยู่ต่างประเทศ และเมื่อกลับมาก็ไม่ได้เข้าไปดูมวยในเวทีแล้ว แต่ก็ยังติดตามข่าวอยู่ตลอด แต่ถ้าจะให้บอกว่าใครคือนักมวยคนโปรด ก็ต้องบอกว่า ผุดผาดน้อย วรวุฒิ และสามารถ พยัคฆ์อรุณ จึงขอแสดงความเห็นเรื่อง soft power มวยไทยเสียหน่อย
เรื่องน่าขำมากก็คือ การกีฬาแห่งประเทศไทยทำหน้าที่ขับเคลื่อน soft power มวยไทย เสนอโครงการชื่อ
"โครงการยกระดับกีฬามวย เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและเผยแพร่วัฒนธรรมสู่สากล" ได้งบประมาณไป 644 ล้านบาท ในงบประมาณจำนวนนี้ จะใช้ไปกับการประชาสัมพันธ์ และกับการจัดการแข่งขันกีฬามวยไทย
ถึง 473 ล้านบาท
คำถามคือ ช้าไปหรือเปล่าครับ ไม่น่าเชื่อว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งควรจะมีความรู้เรื่องวงการมวยไทยเป็นอย่างดี ไปเสนอโครงการแบบนี้ได้อย่างไร สัปดาห์ที่แล้ว ผมกำลังดูการถ่ายทอดสด One Championship ซึ่งไปจัดที่เมือง Denver รัฐ Colorado สหรัฐอเมริกา คู่เอกคือ ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่เก้า ชกในแบบมวยไทยกับ Jonathan Haggerty ชาวอังกฤษ รายการนี้มีคนดูมหาศาล เพราะถ่ายทอดสดทางช่อง 7 และสดทาง youtube มีคนดูทั่วโลกเป็นล้านคน ในคลิปแนะนำนักมวยที่ออกอากาศก่อนชก ยังเห็นว่านักมวยเหล่านี้ใช้อุปกรณ์การฝึกซ้อมยี่ห้อ Fairtex ซึ่งเป็นของไทยแท้ๆ กันเป็นส่วนใหญ่
ข้อมูลจากการกีฬาแห่งประเทศไทยเอง ในปี 2566 ระบุมียิมที่สอนมวยไทยถึงกว่า 5000 แห่งทั่วประเทศ และมากว่า 4000 แห่งเฉพาะในยุโรป และมีอยู่ในประเทศต่างๆมากกว่า 50 ประเทศ อดีตยอดมวยไทยหลายคน เช่น แก่นศักดิ์ ส.เพลินจิต ก็เป็นเจ้าของยิมสอนมวยไทยที่ใหญ่โตมากในสหรัฐอเมริกา ผุดผาดน้อย วรวุฒิ ก็ไปสอนมวยไทยในประเทศฝร้่งเศสเป็นเวลานานจนมีครอบครัวที่นั่น และปัจจุบันกลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว
แสนชัย พีเค มวยไทยแสนชัยยิม ก็เดินสายไปเปิด work shop ในประเทศต่างๆ และได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม รู้หรือไม่ว่าผู้ที่เข้ามารับการฝึกมวยไทยในยิมมวยไทย หรือกระทั่ง mixed martial art ในต่างประเทศ พวกเขารู้จักเรียกอาวุธมวยไทยเป็นภาษาไทย เช่นคำว่า เตะ ถีบ เข่า ศอก กันทั้งนั้น
ปัจจุบันทั้ง Thai Fight One Lumpinee ราชดำเนิน และ One Championship ก็จัดการแข่งขันชกมวยไทยกันทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ยังไม่รวมเวทีอื่นๆอีกหลายเวที แล้วการกีฬาแห่งประเทศไทยจะไปเสียเงินจัดการแข่งขันมวยไทยเป็นร้อยๆล้านไปทำไมอีก
นักมวย mixed martial art เกือบทุกคนจะต้องฝึกมวยไทยด้วย ชาวต่างชาติต่างหลั่งไหลเข้ามาเรียน มาฝึกมวยไทยในประเทศไทยก้นมากมาย มีจำนวนมากที่ฝึกมวยไทยอยู่ต่างประเทศ แต่จะให้แน่จริง เขาจะมาเมืองไทย
ในแง่ของ soft power มวยไทยจึงเป็น soft power ไปนานแล้ว และไปไกลมากแล้ว รัฐไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินหลายร้อยล้านเพื่อยกระดับมวย หรือประชาสัมพันธ์มวยไทยอีกแล้ว ถ้ายังดีงดันทำอีก ก็น่าเสียดายเงินภาษีที่มาจากประชาชนจนไม่ทราบว่าจะพูดอย่างไรดี
หยุดเถิด นโยบาย soft power ประเทศเราไม่มีเงินเหลือใช้พอที่ให้นำมาถลุง มาละเลง ละลายแม่น้ำกันอย่างสนุกสนานเช่นนี้
พรรคร่วมรัฐบาลที่อ้างว่าทำเพื่อประเทศชาติ ก็เห็นโหวตผ่านงบประมาณ 2568 ไปอย่างพร้อมเพรียง นี่น่ะหรือ ฝืนใจเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อประเทศชาติ ไม่เคยค้านเพื่อประเทศชาติบ้างเสียเลย อ้างแต่ว่า เป็นมารยาททางการเมือง มารยาททางการเมืองแปลว่า จะผิดหรือถูก จะทำให้ประเทศชาติล่มจม หายนะ ก็ต้องยกมือให้หรือ
"ระบอบประชาธิปไดยมันเป็นแบบนี้นี่เอง"
#มวยไทย #OneLumpinee #OneChampionship #Softpower #ซอฟท์พาวเวอร์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น