ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สรุปข้อคิดที่ได้จากยุโรป

มาทำงานสิบกว่าวันในดินแดนยุโรป นี่ทำให้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายที่ยังไม่เคยเห็นดังนี้
1) European Union เป็นสิ่งที่สำคัญมาก การรวมกลุ่มทำให้เกิดการพัฒนา ความร่วมมือทางวิชาการที่เข้มแข็งสำหรับการศึกษา เศรษฐกิจ และการวิจัย นี่คือสิ่งที่น่าสนใจ
2) หลังจากที่อิตาลีตกรอบ ไม่ได้ไปบอลโลก สิ่งหนึ่งที่สมาคมกำลังทำก็คือ Stop and Rethink ในการปรับปรุงระบบครั้งใหญ่ โดยเริ่มจากระดับเยาวชน ผ่านทางสโมสรต่างๆ ที่ร่วมมือร่วมใจกัน การเอาธุรกิจออกห่างจากวงการกีฬาเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน


3) Big Data และ Data Analysis ยังมีความจำเป็นเป็นอย่างมากสำหรับวงการกีฬาข้อมูลที่กระจัดกระจายไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ ต้องมีการวิเคราะห์และกำหนด Framework ที่ชัดเจนสำหรับการเก็บข้อมูล และความเป็นเอกภาพ ไม่ใช่แค่ทีมที่ใช้ข้อมูลแต่เป็นข้อมูลสำหรับทีมชาติด้วยเช่นกัน Data Sharing จึงยังมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับ การพัฒนากีฬา การไม่แบ่งข้อมูลทำให้วงการพัฒนาแต่ภาพรวมของประเทศไม่พัฒนา
4) การวิจัย ต้องเน้นการ Spin ออกไปเป็นสินค้า มากกว่าจะส่งประกวด เพราะผลลัพธ์คือต้องเอาไปขายและนำเงินมาต่อยอดการพัฒนาต่อไป หมดสมัยการทำไปประกวด ผู้บริโภคคือผู้ตัดสิน
5) จีน และ อินเดีย กำลังสยายปีกในวงการ Medical การแพทย์ มีการวิจัยและพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว และ ค่าใช้จ่ายในการตรวจถูกกว่า ดังนั้นเราอาจจะเห็นเครื่องมือทางการแพทย์ และวิจัยจากจีนและอินเดียเกลื่อนบ้านเมืองเราในไม่ช้า
6) การทำกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ ถ้ารอแต่เงินจากรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จแน่นอน หน่วยงานที่จะมาขับเคลื่อนต้องเป็นภาคธุรกิจ
อุตสาหกรรม เพราะ Policy ของรัฐบาลไม่แน่นอน ดังนั้น เหนื่อยหนักเหนื่อยนาน ถ้าจะหวังพึ่งเงินจากรัฐบาล
7)Basic Research และ Applied Research ทำเงิน ส่วน Repeated Research สร้างขยะ...
8. สถาบันใหญ่ๆในยุโรปเริ่มปรับตัว ETHZ เปลี่ยนงานวิจัยมาเป็นผลิตภัณฑ์ ที่ค่อนข้างก้าวหน้า แต่ปัญหาคือ ต้องหาทีมงานมาพัฒนาการขาย เพราะบางเรื่องต่อให้ปีนบันได ก็ยังเข้าไม่ถึงครับ
9) เด็กนักศึกษาที่นี่ทำการบ้านมาดีครับทำให้อภิปรายกันได้อย่างสนุกสนาน การศึกษาที่ดีต้องสอนให้รู้จักแสดงความคิดเห็นเชิงวิชการ Criticized ภาพย้อนกลับมาที่ประเทศไทย
10)การพนันทำให้ถูกกฎหมายไปเถอะครับ ดีกว่าเงินไหลออกไปนอกประเทศ ผ่านทางโต๊ะตามชายแดนและร้านพนันออนไลน์ ที่สำคัญตำรวจก็เก็บส่วยไม่ได้ครับ
หมด
ขอบคุณที่เชิญมาบรรยาย เลี้ยงเบียร์

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ใครว่าพาร์กินสันออกกำลังกายไม่ได้ ลงวิ่งอัลตร้าเทรลกันเลยทีเดียว

พาร์กินสันก็ลงอัลตร้า ได้นะ Parkinson and Exercise... วันนี้ขออนุญาตแชร์เรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับโรคพาร์กินสัน ให้ฟังนะครับ เพื่อนผมชาวแคนนาดา เป็นครูสอนว่ายน้ำ อาศัยอยู่ที่ฮ่องกงครับ เขาถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน มาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หลังจากที่เขาทราบว่าป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ก็ไม่ต่างอะไรกับคนส่วนใหญ่ที่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งหรอกครับ แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตเขานั่นก็คือการออกกำลังกาย นั่นเอง หลังจากที่เริ่มฝึกออกกำลังกายอย่างจริงจังเมื่อประมาณ สิบเดือนที่แล้ว คริส  ก็เริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจังและซ้อมวิ่ง ภายใ้ต้การดูแลโดยสตีฟ เน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก (อากาศนิยม) และ ฝึกความแข็งแรง รวมทั้งการเคลื่อนไหวของข้อต่อ Joint Mobility เราเลือกการฝึกแบบแอโรบิค โดยการคุม โซนอัตราการเต้นของหัวใจครับ และทดสอบระดับแลคเตททุกๆเดือน การกำหนดโปรแกรมเนื่องจากข้อจำกัดของคริส คือ ไม่สามารถจะทำการทดสอบ VO2max แบบทางอ้อม สตีฟ ได้เลือกวิธีการทดสอบด้วย Non-Exercise Test แลนำมาหาความสัมพันธ์กับการเจาะแลคเตท ด้วยวิธีการ Cooper's test ครับ วันนี้คริส สามารถจบรายการ Cordillera Conservation T...

มวยไทย: ศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ได้เป็นของประเทศไทยเพียงชาติเดียว กับกระแสการไหลบ่าของวัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกในฐานะศาสตร์แห่งอาวุธทั้งแปด (The Art of Eight Limbs) ซึ่งใช้หมัด ศอก เข่า และเท้าในการต่อสู้ แม้ว่าชื่อ "มวยไทย" จะสื่อถึงประเทศไทย แต่แท้จริงแล้ว ศิลปะการต่อสู้นี้มีรากเหง้าที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมการต่อสู้ของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น กุน ขแมร์ (Kun Khmer), เลธเหวย (Lethwei), มวยลาว และโทมอย (Tomoi) การแพร่กระจายและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) ส่งผลให้ศิลปะการต่อสู้เหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันและพัฒนาไปพร้อมกันในแต่ละพื้นที่ สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ผ่านแนวคิดเรื่อง "การไหลบ่าของวัฒนธรรม" (Cultural Flows) ซึ่งเกิดขึ้นจากการติดต่อทางเศรษฐกิจ การค้าขาย การอพยพ และสงครามระหว่างรัฐในภูมิภาค การไหลบ่าของวัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอิทธิพลต่อศิลปะการต่อสู้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีต จากหลักฐานทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ เราสามารถเห็นกระแสการไหลบ่าของวัฒนธรรมที่มีผลต่อการพัฒนาศิลปะการต่อสู้ในภูมิภา...

ฝึกความแข็งแรงของขาด้วย Suspension Trainer: อุปกรณ์เดียวเสริมสร้างความแข็งแรงที่ติดตั้งง่ายและจบในเครื่องเดียว

 การสร้างกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรงนั้น หลายคนมักนึกถึงการยกน้ำหนักเป็นอันดับแรก แต่บางครั้งเราก็ต้องการความแปลกใหม่ หรือบางทีคุณอาจเจอปัญหาเครื่องออกกำลังกายในยิมไม่ว่าง นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ลองเทรนด้วย Suspension Trainer อุปกรณ์อเนกประสงค์ที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความมั่นคงให้กับร่างกายของคุณ ทำไมต้อง Suspension Trainer? Suspension Trainer ไม่ได้มีดีแค่เรื่องการสร้างกล้ามเนื้อ แต่ยังมีข้อดีมากมาย: ปรับความหนักเบาได้ตามต้องการ : ด้วยการปรับมุมของร่างกายหรือตำแหน่งเท้า คุณสามารถปรับระดับความยากง่ายได้ตามความแข็งแรงของคุณ เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และคนที่เทรนมานาน ฝึกได้หลากหลายท่า : ตั้งแต่ท่าสควอทแบบยกแขนเหนือศีรษะไปจนถึงท่าลันจ์ คุณสามารถสลับท่าต่างๆ เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อขาได้ครบทุกมัด ได้ครบทั้งตัว : ด้วยความไม่มั่นคงของอุปกรณ์ ทำให้กล้ามเนื้อมัดเล็กและคอร์ต้องทำงานหนักขึ้น แม้จะตั้งใจเน้นขาก็ตาม พกพาสะดวก : เทรนได้ทุกที่ที่มีจุดยึด ไม่ว่าจะที่บ้าน กลางแจ้ง หรือในยิม วอร์มอัพก่อนเริ่ม การวอร์มอัพมีความสำคัญมาก เพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บและเพิ่มประสิทธิภาพในการ...